Study Journal 05 : Teotim Sidetable
โจทย์ของงานสุดท้ายที่ผมตั้งไว้คือต้องการทดลองทำงานวีเนียร์ดัดโค้ง และ การทดลองออกแบบข้อต่อไม้ใหม่ๆที่สามารถเอาไปพัฒนาต่อได้ในอนาคต โดยชิ้นงานจะต้องมีขนาดที่เล็กพอที่จะเอาใส่กระเป๋าเดินทางกลับมาไทย ก็เลยสรุปเป็นโต๊ะเล็กๆ อาจใช้วางที่ข้างโซฟาหรือหัวเตียง ที่สามารถถอดประกอบได้ทุกชิ้น โดยผมใช้วีเนียร์เป็นส่วนของคานรับหน้าท๊อป เพราะอยากทดลองว่าวีเนียร์นั้นสามารถทำหน้าที่เป็นโครงสร้างได้หรือไม่
ภาพสเก็ชสุดท้าย (ตรงส่วน Joint )ก่อนเริ่มลงมือทำ
ขั้นตอนเริ่มแรกคือการเตรียมโมล (Mould) หรือพิมพ์ที่จะดัดวีเนียร์ให้เป็นรูปตามพิมพ์นั้น โดยโมลของผมนั้นเป็นแบบพื้นฐาน ทำจากไม้ปาติเกิ้ลบอร์ดขึ้นรูป แล้วตัดต่อวีเนียร์ให้ได้ขนาดที่เกินโมลออกมานิดๆ จากนั้นวางวีเนียร์ซ้อนกัน โดยวางสลับลายไม้ไปมาเพื่อความแข็งแรง และทากาวระหว่างแต่ละชั้น สำหรับชิ้นวีเนียร์นี้ ผมยังคงเล่นสีไม้วอลนัทกับแอชเช่นเดิม ให้มีเส้นสีเข้มของวอลนัทวิ่งคู่ไปกับแอช
โมลสำหรับการดัด
ต่อวีเนียร์ด้วยเทป
ค่อยๆวางซ้อนกัน
แอช และ วอลนัท
ผมไม่แน่ใจว่าวิธีการดัดแบบที่ผมใช้นั้นเรียกว่าอะไร โดยจะใช้ถุงพลาสติกคลุมโดยรอบโมลและวีเนียร์ จากนั้นดูดอากาศออกเพื่อให้ถุงพลาสติกบีบวีเนียร์ลงกับโมล วิธีนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำโมลอีกอันเพื่อมากด ทั้งเร็วและประหยัดครับ แต่ต้องทิ้งระยะเวลาเพื่อให้กาวแห้งระยะหนึ่ง จากนั้นจึงนำออกมาตัด
ฟ๊องค์ คุณลงฟิลิป และอาจารย์นิโคลัส กำลังเอาชิ้นงานใส่เข้าไปในถุง
เมื่อดูดอากาศออกวีเนียร์จะถูกดัดแบบนี้ครับ
เมื่อเอาออกจากโมลก็จะคงรูปแบบนี้ไม่คืนตัว
ตรงขอบด้านข้างจะลุ่ยๆ เราต้องตัดขอบออกก่อนเพื่อดูว่าวีเนียร์เรียงตัวสมบูรณ์หรือไม่
ส่วนนี้ต้องตัดอย่างระวังมากๆครับ
เสร็จออกมาเป็นส่วนของคานโต๊ะ เหลือเพียงขั้นตอนการลบมุม และเจาะรูใส่น๊อต
จากนั้นเป็นส่วนของขา และหน้าท๊อปโต๊ะครับ และอีกอย่างที่ผมเพิ่มเข้าไปคือจะมีลิ้นชักเก็บของเล็กๆ วางคู่กับโต๊ะด้วยสำหรับใส่ของเล็กๆน้อยๆ โดยยังคงคอนเซ็ปการผสมสีไม้เช่นเดิม โดยภายนอกเล่นสีให้น้อยลงเหลือเพียงเส้นบางๆ แต่เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอสีที่ตัดกัน
ไม้ส่วนขาโต๊ะ
ภาพสเก็ชของกล่องลิ้นชักที่จะวางไว้ด้านล่างของโต๊ะ
เตรียมไม้
ประกอบเป็นกล่องหลังจากการตัด 45 องศา
ทำส่วนของกล่องด้านนอก
ต้องขัดทั้งด้านในและนอกครับ เพื่อให้ลิ้นชักเลื่อนได้อย่างสะดวก
ส่วนของหน้าท๊อป
ชิ้นส่วนทั้งหมดครับ
ทดลองประกอบ
เสร็จออกมาเป็นแบบนี้ครับ : )
โดยยังเหลือขั้นตอน Finishing ผิวสุดท้ายก็เป็นอันเสร็จ
ช่วงระหว่างโปรเจคสุดท้าย แฟรงค์ได้มีพรีเซนต์ให้เพื่อนนักเรียนและรุ่นน้องฟังเรื่องที่มาเมืองไทยครับ โดยแฟรงค์ถึงกับเขียนบันทึกไว้ทำเป็นหนังสือขายเลย มีคนสนใจมากทีเดียวครับ ผมเองก็ได้พรีเซนต์เรื่องที่มาที่ไปของแบรนด์ Flo และกระบวนการออกแบบที่ผมใช้ด้วยครับ การพรีเซนต์ก็ลำบากนิดหน่อยเพราะแฟรงค์ต้องแปลที่ผมพูดจากภาษาอังกฤษเป็นฝรั่งเศสครับ
มีคนสนใจเยอะทีเดียว
และแล้วคอร์สนี้ก็จบลงครับ ถึงแม้จะเป็นคอร์สสั้นๆเพียงหนึ่งเดือน แต่ก็ทำให้ผมได้เข้าใจงานไม้มากขึ้น รวมถึงได้เข้าใจวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของคนฝรั่งเศสอีกด้วย เป็นช่วงเวลาที่ดีมากครับ ยังไงโปรดรอติดตามคอลเลคชั่นใหม่เร็วๆนี้นะครับ : )
au revoir
On this final project, I aimed to experiment on bended veneer and new wood joint that can be develop to be a furniture collection. While the piece has to be small enough to put in the luggage, for me to bring it back to Thailand. The final design is a small sidetable which can be placed next to a bed of a sofa. Every parts of the table can be disassemble. I use bended veneer as a table bar in order to test that it suitable for be design as a structure or not.
The first step is to prepare the mould, my mould made from particle board and glue a foam on it, after that cut-paste veneer to size and then layer it on top of each other, cross grain, and glue between each. I still keep the concept of mixing between two different wood, walnut and ash.
I'm not sure what the process I used was called, using a plastic bag cover the mould and the work piece then suck the air out from the plastic back, it will press the veneer against the mould to create a shape, and leave it for a while for the glue to dry. With this technique I don't have to make another mould to press. After that is cutting and prepared top and leg parts. Another thing that I added to the table is the small drawer for keeping accessories or books which still keep the concept of mixing wood.
On the period that I worked on this table, Franck has a chance to present his journey and work to his colleague, he also wrote a book about it too! (which he sold a lot of it!) Many people interested in this presentation. I also has a chance to presented this brand and my working process to them too.
And this journey comes to the end, even it is only one month and a half, but it is a fruitful experience. I got both the cabinetmaking knowledge and French culture & living. Its really a good time. Thanks for everyone who make this trip happen, and please stay tuned for the new collection : )